✅ลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ สามารถสมัครแพ็กเกจ Disney+ Hotstar ได้หรือไม่

-ลูกค้ามีซิมมือถือเอไอเอส:

สำหรับลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ หากมีซิมมือถือเอไอเอส สามารถสมัครแพ็กเกจ Disney+ Hotstar ได้ทันที

-ลูกค้าที่ต้องการย้ายค่ายเบอร์เดิม:

ลูกค้าสามารถทำการย้ายค่ายเบอร์เดิมของคุณมายัง AIS เพื่อรับสิทธิพิเศษจาก Disney+ Hotstar ได้ง่ายๆ คลิก https://become-ais-family.ais.co.th/move-to-ais-online หรือ กด*151*เลขที่บัตรประชาชน# แล้วกดโทรออก

✅ลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ ที่มีเบอร์มือถือเอไอเอส สามารถสมัครแพ็กเกจใดได้บ้าง

ลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ที่ใช้เบอร์มือถือเอไอเอสสำหรับการติดต่อ สามารถเลือกสมัครบริการ Disney+ Hotstar ดังนี้

1. แพ็กเกจ Disney+ Hotstar แบบรายเดือน 49บ./เดือน (ปกติ 99บ.) และแบบรายปี 499บ./ปี (ปกติ 799บ.)

2. แพ็กเกจจาก AIS PLAY

- PLAY PREMIUM 19บ.ในเดือนแรก หลังจากนั้น 199บ./เดือน รับสิทธิ์ชม Disney+ Hotstar นานสูงสุด 6 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

- PLAY PREMIUM PLUS 29บ.ในเดือนแรก หลังจากนั้น 299บ./เดือน (สำหรับผู้สมัครใช้บริการครั้งแรก) รับสิทธิ์ชม Disney+ Hotstar นานสูงสุด 12 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ais.th/play/package.html

โดยสิทธิ์ใช้งาน Disney+ Hotstar สำหรับลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ที่ใช้เบอร์มือถือเอไอเอสในการติดต่อเท่านั้น

✅กรณีลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ ต้องการสมัครบริการ Disney+ Hotstar ด้วยหมายเลขเอไอเอส ไฟเบอร์ และต้องการชำระค่าบริการผ่านบิลเอไอเอส ไฟเบอร์

-ปัจจุบันบริการ Disney+ Hotstar ยังไม่สามารถสมัครและชำระค่าบริการผ่านบิลเอไอเอส ไฟเบอร์ได้

-ขอแนะนำให้ลูกค้าใช้หมายเลขโทรศัพท์เอไอเอส ระบบเติมเงินหรือรายเดือน ทำการสมัครเพื่อใช้บริการ

✅ลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ สามารถรับชมคอนเทนต์ Disney+ Hotstar บนกล่อง AIS PLAYBOX ได้หรือไม่

ปัจจุบัน AIS และ Disney+ Hotstar ได้พัฒนาเพื่อให้ท่านสามารถรับชมแอป Disney+ Hotstar ผ่านกล่อง PLAYBOX ได้ โดยรุ่นที่รองรับการใช้งานคือ PLAYBOX 912 ซึ่งกล่อง PLAYBOX ของคุณจะได้รับการอัปเดต software โดยอัตโนมัติ (OTA) ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

***หากคุณยังไม่สามารถพบแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar หลังวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ให้คุณทำการเปิดปิดอุปกรณ์ PLAYBOX ใหม่อีกครั้ง

✅ในกรณีที่ใช้กล่อง AIS PLAYBOX รุ่นที่ไม่รองรับการใช้งาน ต้องทำอย่างไร update-th-6.gif

สำหรับลูกค้าที่ใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX รุ่นที่ไม่รองรับ สามารถรับชม Disney+ Hotstar บนจอใหญ่ได้หลากหลายช่องทาง

Disney+ Hotstar ใช้งานได้บน Chromecast (Gen 2 เป็นต้นไป, Firmware 1.43 ขึ้นไป) ด้วยแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar เวอร์ชันล่าสุดบน iPhone, iPad และ Android mobile

ทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อแคสต์ภาพยนตร์/ซีรีส์ของคุณ:

1. ให้มั่นใจว่ามือถือของคุณ และอุปกรณ์ Chromecast กำลังเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกัน

2. เข้าสู่ระบบ Disney+ Hotstar ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือของคุณ

3. เลือกหนังหรือซีรีส์ที่คุณต้องการรับชม และกดปุ่ม "เล่น (PLAY)"

4. เมื่อหนังหรือซีรีส์ของคุณเริ่มเล่น ให้กดที่ปุ่ม "แคสติ้ง (CASTING)"

5. เลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการรับชมหนังหรือซีรีส์

6. หนังหรือซีรีส์จะฉายขึ้นจอของคุณทันที

* หากคุณใช้ระบบ iOS คุณสามารถใช้ฟังก์ชันกับ "AirPlay" เพื่อสะท้อนหน้าจอของคุณบน "Apple TV"

วิธีการรับชมผ่าน Apple TV หรือ Android TV

1. เปิดแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar บนอุปกรณ์ในห้องนั่งเล่นของคุณ

2. หน้าจอบนอุปกรณ์ Apple TV หรือ Android TV จะแสดง "รหัส (CODE)"

3. เข้าสู่เว็บไซด์ "www.hotstar.com.th.activate" ผ่านอุปกรณ์มือถือ หรือแล็ปท็อปของคุณ

4. เข้าสู่ระบบ Disney+ Hotstar ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือของคุณ

5. กรอก "รหัส (CODE)" จากข้อที่ 2 บนอุปกรณ์มือถือ หรือแล็ปท็อปของคุณ

6. หนังหรือซีรีส์จะฉายขึ้นบนหน้าจอของคุณทันที

✅กล่อง AIS PLAYBOX 912 สามารถรองรับการชมคอนเทนต์แบบ 4K ได้หรือไม่ update-th-6.gif

กล่อง AIS PLAYBOX 912 สามารถรองรับการชมคอนเทนต์แบบ 4K ได้ ทั้งนี้การรับชมแบบ 4K มีเงื่อนไขดังนี้

1.คอนเทนต์ที่ดูจะต้องรองรับการชมแบบ 4K

หากอุปกรณ์ที่ใช้รับชม เช่น AIS PLAYBOX 912, Android Box, Android TV, หรือ Apple TV รองรับสัญญาณภาพ 4K ก็จะสามารถรับชมคอนเทนต์ในแบบ 4K ได้ เช่นเดียวกับ HDR โดยจะมีโลโก้แสดงขึ้นขณะเลือกรับชมคอนเทนต์ ตามรูปด้านล่าง

2. สาย HDMI ต้องเป็นแบบ HDMI 4K

โดยสามารถดูได้จากกล่องหรือจากสาย HDMI ที่มีสัญลักษณ์ 4K สำหรับสายของ AIS PLAYBOX หากแสดงเป็น HDMI model 2.0 คือ รองรับการรับชมแบบ 4K

3.TV ที่จะรับชมจะต้องรองรับระบบ 4K

โดยวิธีการดูว่าโทรทัศน์รองรับ 4K หรือไม่ สามารถดูได้จาก กล่องทีวี, เมนูรายละเอียดของอุปกรณ์, หรือด้านหลังของทีวีตรงรายละเอียดของรุ่น หากไม่พบข้อมูลกรุณาติดต่อผู้จัดจำหน่ายทีวีนั้นๆ หรือตามเว็บไซด์ของยี่ห้อนั้นๆ

4.ความแรงของสัญญาณอินเตอร์เน็ต

แนะนำความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ 20 Mbps ขึ้นไป ทั้งนี้ความห่างของสัญญาณ และความหนาแน่นของประชากรที่ใช้งานในพื้นนั้นก็จะมีผลต่อความเร็วที่จะได้รับด้วย

Wiraporp